ส่วนประกอบในก้อนเชื้อ
-
1. ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม
-
2. รำละเอียด 5 กิโลกรัม
-
3. ยิปซั่ม 2 กิโลกรัม
-
4. ปูนขาว 1 กิโลกรัม
-
5. ดีเกลือ 200 กรัม
การบรรจุถุง
ใช้ถุงร้อนสำหรับการเพาะเห็ดโดยเฉพาะ ขนาด 6.5 x 12.5 นิ้ว
โดยกรอกขี้เลื่อยที่ผสมส่วนประกอบต่างๆแล้ว เพาะลงถุงแล้วทุบให้แน่นที่สุด
ใส่คอขวดพลาสติกแล้วปิดด้วยจุดสำลี
จากนั้นนำไปนึ่งฆ่าเชื้อในเตาอบไอน้ำ ใช้ความร้อนประมาณ 100 องศาเซลเซียส นาน 6
ชั่วโมงและพักก้อนไว้ให้เย็น จากนั้นก็นำเชื้อที่มีคุณภาพมาหยอดลงก้อนเชื้อครับ
วิธีการเขี่ยเชื้อ
ให้ทำความสะอาดวัสดุทั้งหมดโดยการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์
จากนั้นทำการเขย่าขวดหัวเชื้อเมล็ดข้าวฟ่างให้เมล็ดแตกออกจากกัน
ดึงสำลีที่ปิดปากขวดออกแล้วลนปากขวดด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์
เพื่อฆ่าเชื้อแล้วจึงเขี่ยเชื้อลงถุงก้อนเชื้อเห็ด
โดยเทหัวเชื้อเห็ดเมล็ดข้าวฟ่างประมาณ 20-30 เมล็ดต่อถุง
ปิดจุกด้วยสำลีทันที
(หัวเชื้อที่ใส่ต้องใช้ให้หมดในคราวเดียว)
การพักเชื้อเห็ด
นำก้อนเชื้อเห็ดที่เขี่ยแล้วไปพักไว้ในโรงพักที่ไม่มีลมโกรกและสะอาด
เพื่อให้เชื้อเจริญในถุงเพาะเต็มที่ จึงจะสามารถนำไปปลูกในดินได้
ซึ่งใช้ระยะเวลาการพักเชื้อประมาณ 40 วัน
การปลูกเห็ดตีนแรด(เห็ดตับเต่าขาว)
การนำก้อนเชื้อไปฝังดิน เพื่อให้ดอกเห็ดเกิดขึ้นคล้ายกับธรรมชาติ
โดยแกะถุงพลาสติกที่หุ้มก้อนเชื้อออกให้หมด และนำไปฝังบริเวณที่มีร่มเงา
และความชื้นสูง
ถ้าฝนตกและสภาพภูมิอากาศเหมาะสมเห็ดตีนแรดก็จะงอกออกมาให้รับประทานได้ทุกปี
เพราะภายในดินมีเชื้อเห็ดฟักตัวอยู่
การเพาะเห็ดตีนแรดร่วมกับการปลูกผัก
มีขั้นตอนดังนี้
1. จัดเตรียมพื้นและวัตถุดิบที่ใช้ในการเพาะ ได้แก่
- ดินป่นที่ขุดลึกจากผิวดิน 30 ซม.
- ก้อนเชื้อเห็ดตีนแรดที่เส้นใยเดินเต็มถุง ( พื้นที่ 1 ตร.ม. ใช้ก้อนเชื้อ 100 ก้อน )
- แปลงเพาะควรอยู่ในพื้นที่ดอน ไม่มีน้ำท่วมขัง อากาศไม่หนาวจัดจนเกินไป
- ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
2.จัดเตรียมแปลงเพาะ โดยทำเป็นบ่อลึกประมาณ 25 ซม. ขนาด 1 x 4 เมตรต่อแปลงหรือกว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวกำหนดเองตามต้องการ
3. นำก้อนเชื้อเห็ดที่เส้นใยเดินเต็มถุงมาฉีกเอาถุงพลาสติกออก
นำไปเรียงให้ชิดกันจนเต็มแปลงเพาะ (พยายามเรียงก้อนเชื้อให้แน่น
เพื่อให้เส้นใยของเห็ดประสานเป็นเนื้อเดียวกัน)
แล้วนำดินที่ขุดไว้มากลบให้มิด หนาประมาณ 1-3 ซม.
4. ประมาณ 20-40 วัน จะเกิดตุ่มดอกขึ้น
(ถ้าอุณหภูมิต่ำอาจใช้เวลาเกิดดอกนานขึ้น) จากนั้นประมาณ 7-10 วัน
จึงจะเก็บผลผลิตได้
โดยขนาดและน้ำหนักดอกเห็ดจะขึ้นอยู่กับจำนวนก้อนเชื้อที่ใส่ลงไป
โดยทั่วไปจะหนักประมาณ 1 กิโลกรัมหรือมากกว่า
5. การปลูกผัก ให้นำเมล็ดผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น
คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ขึ้นฉ่าย มาทยอยปลูกลงในแปลง นำดินกลบบางๆ
แล้วใช้ฟางข้าวคลุม รดน้ำให้ชุ่ม และรักษาความชื้นไม่ให้ดินแห้ง
ผักที่ปลูกจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในระยะเวลา 40 - 60 วัน
ซึ่งระหว่างนั้นเชื้อเห็ดตีนแรดจะเริ่มเกิดดอก
เมื่อเก็บผักรุ่นแรกเสร็จให้ทำร่มเงาในแปลงผัก โดยใช้ตาข่ายพรางแสง 60 - 80
% ขึงสูงประมาณ 2.5 เมตร หรือใช้ทางมะพร้าวพรางแสงและบังลมแทนก็ได้
สำหรับแปลงผักที่เก็บเกี่ยวแล้วสามารถนำผักชีหรือ
ผักกินใบที่อยู่ในร่มได้มาปลูก โดยนำดินผสมปุ๋ยอินทรีย์โรยก่อนปลูกผัก
คลุมด้วยฟางข้าว ซึ่งในระหว่างที่ผักรุ่นสองเจริญเติบโตให้ดูแลรดน้ำ
และรักษาความชื้นตามปกติ และเห็ดก็จะเจริญเติบโตเก็บดอกได้อีกครั้งประมาณ
40 - 60 วัน พร้อมกับการเก็บผักกินควบคู่กันไป